วันพฤหัสบดีที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

ฟ้อนรําบายศรีสู่ขวัญ

ประวัติความเป็นมา
            การแสดงชุดรำบายศรีสู่ขวัญ เป็นการแสดงของภาคอีสาน  ซึ่งใช้ในพิธีบายศรีสู่ขวัญหรือเชิญขวัญในการต้อนรับแขกเมืองหรือแขกสำคัญๆ ซึ่งเป็นแขกที่มีเกียรติหรือแขกผู้ใหญ่ที่มาจากต่างถิ่น ชาวอีสานจะมีการจัดต้อนรับโดยจัดพิธีบายศรีสู่ขวัญ โดยนำใบตองมาเย็บเป็นบายศรีอย่างสวยงามประดับด้วยดอกไม้และเครื่องหอม มีด้ายสายสิญจน์สำหรับผูกข้อมือ ซึ่งจะให้ผู้เฒ่าหรือผู้ทรงคุณวุฒิ วัยวุฒิ เพื่อความเป็นสิริมงคลโดยมีพานบายศรีหรือที่เรียกว่า
“ พาขวัญ’’ โดยจะมีพราหมณ์เป็นผู้ทำพิธีเรียกขวัญ ตามท่วงทำนองของชาวบ้านในคำเรียกขวัญนั้นจะมีทั้งคาถาที่เป็นภาษาบาลี และคำเรียกขวัญภาษาถิ่น หรือที่เรียกว่า“  สูตรขวัญ ’’ซึ่งคำว่าสูตรขวัญนั้นยากแก่การเข้าใจของผู้มาเยือน  จึงมีการจัดทำชุดรำบายศรีขึ้นเพื่อให้คนต่างถิ่นได้เข้าใจเพราะมีคำร้องที่เป็นภาษาที่เข้าใจง่าย  เนื้อร้องแต่งโดยอาจารย์ดำเกิง ไกรสรกุล   ซึ่งในปัจจุบัน ก็ยังเป็นที่นิยมใช้กันอยู่  แต่เนื้อร้องอาจจะผิดเพี้ยน  จากเดิมไปบ้าง
     




       บายศรี เป็นคำเรียกพราหมณ์ด้วยความเคารพ พราหมณ์เป็นผู้ทำพิธีสู่ขวัญ จึงเรียกว่า บาศรีสู่ขวัญ ซึ่งหมายถึงพราหมณ์ทำพิธีสู่ขวัญ

       บายศรี มาจากคำว่าบาย+ศรี บาย แปลว่า สัมผัส จับ ต้อง ศรี แปลว่า สิริ มงคล สิ่งที่ดี บายศรี หมายความถึง การรวบรวมเรียกเอาสิริมงคลต่างๆ ด้วยกิริยาวิธีทางกาย ทางวาจา และทางใจ แม้ว่าศรี หรือ สิริ จะไม่สามารถบายหรือสัมผัสจริงๆได้ด้วยมือ แต่ที่ใช้คำว่าบาย เนื่องจากต้องการสื่อในความหมายเชิงรูปนัยเพื่อให้เข้าใจได้ง่าย มิใช่นามนัย พราหมณ์จึงใช้วิธีเชิญสิริเข้ามาอยู่ในข้าว ไข่ต้ม หรือฝ้ายผูกข้อมือ เป็นต้น แล้วบายเอาข้าวหรือไข่ต้มส่งให้ผู้เข้ารับบายศรีกิน นำฝ้ายไปผูกข้อมือ ซึ่งวิธีการนี้เป็นวิธีเชิงรูปธรรม ในส่วนที่เป็นนามธรรมนั้น จะรับสิริทางใจหรือความรู้สึกโดยตรง

      การจัดพาขวัญนี้ปกติต้องจัดด้วยพานทองเหลือง หรือขันสัมฤทธิ์หลายใบซ้อนๆ กัน ซึ่งมีตั้งแต่ 1 ชั้นถึง 9 ชั้น มีใบตองจัดเป็นกรวยเข้าช่อ ประดับดอกไม้สดดูสวยงาม
          ชั้นล่างของพาขวัญจะเป็นพานมีใบศรีทำด้วยใบตอง ดอกไม้สด ข้าวต้ม ไข่ต้ม ขนม กล้วย อ้อย ปั้นข้าว เงินฮาง มีดด้ามแก้ว มีดด้ามคำ ชั้นต่อไปจะตกแต่งด้วยใบศรีและดอกไม้สด ซึ่งจะเป็นดอกปาง ดอกดาวเรือง ดอกรัก ใบเงิน ใบคำ ใบคูณ ใบยอป่า
          ชั้นที่ 5 จะมีฝ้ายผูกข้อมือ เทียนเวียนหัว นอกจากพาขวัญแล้วจะต้องมีเครื่องบูชาอื่นๆ เช่น ขันบูชา ขันธ์ 5 ซึ่งมีพานขนาดกลางสำหรับวางผ้า 1 ผืน แพร 1 วา หวี กระจกเงา น้ำอบน้ำหอม สร้อย แหวน ของผู้เป็นเจ้าของขวัญ โดยจะมีพรารหมณ์เป็นผู้ทำพิธีเรียกขวัญ ตามท่วงทำนองของชาวบ้าน ในคำเรียกขวัญนั้นมีทั้งคาถาที่เป็นภาษาบาลีและคำเรียกขวัญภาษาถิ่น หรือที่เรียกว่า "สูตรขวัญ" ซึ่งคำสูตรขวัญนั้นยากแก่การเข้าใจของผู้มาเยือน จึงมีการจัดทำชุดฟ้อน บายศรีขึ้น เพื่อให้คนต่างถิ่นได้เข้าใจเพราะมีคำร้องที่เป็นภาษาที่เข้าใจง่าย แต่งโดย อาจารย์ดำเกิง ไกรสรกุลและท่าฟ้อนประดิษฐ์ขึ้นโดย อาจารย์พนอ กำเนิดกาญจน์แห่งวิทยาลัยครูอุดรธานี ซึ่งในปัจจุบันก็ยังเป็นที่นิยมใช้กันอยู่
เครื่องดนตรี
            เครื่องดนตรีที่ใช้ประกอบในการแสดงชุด  “ รำบายศรีสู่ขวัญ ” ใช้วงดนตรีพื้นบ้าน
วงโปงลาง มีเครื่องดนตรีดังนี้โปงลาง     กลองยาว  กลองใหญ่  ไหซอง พิณ   เบส         แคน  โหวด      ฉาบเล็ก   ฉาบใหญ่  เกราะ
การแสดง                       ใช้ผู้หญิงแสดงล้วน
โอกาสที่ใช้แสดง    ใช้ในพิธีบายศรีสู่ขวัญ ในการต้อนรับครั้งสำคัญๆ ปัจจุบันอาจใช้ในงาน
                                       รื่นเริงและงานเบ็ดเตล็ดทั่วไป
การแต่งกาย            สวมเสื้อคอตั้งแขนยาวจรดข้อมือ  ห่มสไบขิด  และนุ่งผ้าซิ่นคลุมเข่า
                                       ผมเกล้ามวยติดดอกไม้ ด้านซ้าย สวมเครื่องประดับเงินตกแต่งให้สวยงาม




บทร้องเพลงบายศรีสู่ขวัญ

 ผู้แต่งเนื้อร้อง  อาจารย์ดำเกิง ไกรสรกุล   
                     
มาเถิดเย้อ มาเย้อขวัญเอย  มาเย้อขวัญเอย
              หมู่ชาวเมืองมา เบื้องขวานั่งส่ายลาย เบื้องซ้ายนั่งเป็นแถว
              ยอพาขวัญอันเพริศแพร้ว  ขวัญมาแล้ว มาสู่คิงกม
                          เกศเจ้าหอมลอยลม  ทัดเอื้องชวนชมเก็บเอาไว้บูชา
                          ยามฝนพรำเจ้าอย่าแข็ง  แดดร้อนแรงเจ้าอย่าครา
                          อยู่ที่ไหนจงมา รัดด้ายไชยามาคล้องผ้าแพรกระเจา   ( ดนตรี )
                                            อย่าเพลินเผลอ  มาเย้อขวัญเอย  มาเย้อขวัญเอย
                          อยู่แดนดินใด  ฤาฟ้าฟากใด  ขอให้มาเฮือนเฮา
                          เพื่อนอย่าคิดอะไรสู่เขา ขออย่าเว้าขวัญเจ้าจะตรม
                          หมอกน้ำค้างพร่างพรม  ขวัญอย่าเพลินชมป่าเขาลำนำไพร
                          เชิญไหลทาประทินกลิ่นหอม  ดมพยอมให้ชื่นใจ
                          เหล่าข้าน้อยแต่งไว้  ร้อยพวงมาลัยจะคล้องให้สวยรวย







 

3 ความคิดเห็น:

  1. หนูสงสัยค่ะว่ารำบายศรีนี่ตกลงเป็นของภาคเหนือหรือภาคอีสานคะ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. หนูอยากจะถามค่าว่าฟ้อนบายศรีมีอยู่กี่ท่าและมีท่าอะไรบ้าง

      ลบ